บูเช็คเทียน พากษ์ไทย 1-111ตอนจบ
บูเช็คเทียน ชื่อเดิม บูเหม่ยเหนียง ถวายตัวรับใช้ในวังตั้งแต่อายุ 14 ปี จากนั้นได้รับแต่ตั้งเป็น “ไฮเหริน” (ชื่อเรียกสนมชั้นล่าง) หลังจากฮ่องเต้ถังไห่จง เสด็จสวรรคต พระนางบูเช็กเทียนจึงถูกส่งตัวไปเป็นแม่ชีที วัดกันเย่ซื่อ จากนั้นอีก 2-3 ปี ฮ้องเต้ถังเกาจงรับสั่งให้พระนางบูเช็กเทียนเข้าวังอีกครั้ง และแต่งตั้งให้เป็น “จาวอี๋” ต่อมาฮ่องเต้ถังเกาจงปลดหวางฮองเฮาและแต่ตั้งให้บูเช็กเทียนดำรงตำแหน่ง “ฮองเฮา” แทน เนื่องจากฮ่องเต้ถังเกาจง มีโรครุมเร้าฮองเฮาบูเช็คเทียนจึงเข้ามากับกำราชการถวายอยู่หลังพระวิสูตร(ม่าน) ในเวลาต่อมาไม่ว่าบูเช็คเทียน จะสั่งอะไรก็ไม่มีใครกล้าขัดขวาง ขุนนางที่กระด้างกระเดื่องล้มตายลงไปมาก เพราะคำสั่งของพระนางไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในที่สุดฮ่องเต้ถึงเกาจงก็สิ้นพระชนม์ ราชโอรส ผู้เป็นไท่จือขึ้นครองราชบัลลังก์ต่อ ทรงพระนามว่า “ฮ่องเต้ถังจงจง” บูเหม่ยเหนียงเปลี่ยนฐานะจาก มเหสี-ฮองเฮา เป็นพระราชชนีฮองไทเฮา แต่ก็ทรงอำนาจเหมือนเดิม ต่อมาพระนางก็ได้ลงมือโค่นอำนาจ ฮ่องเต้ซึ่งเป็นโอรสของพระนางเอง แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้สตรีคนแรก (องค์เดียว) ของจีน แล้วเปลี่ยนราชวงศ์เดิม “ราชวงศ์ถัง” เปลี่ยนเป็นราชวงศ์ “ราชวงศ์โจว” แทน ปีนั้นพระนางอายุถึง 64 ชันษาแล้ว บูเช็คเทียนปราบปรามผู้คนที่ต่อต้านนางอย่างไร้ปราณี ทว่าทรงให้ความสำคัญกับบุคคลากร ขอเพียงแต่เป็นผู้ที่มีความสามารถก็มีสิทธิ์รับใช้ราชสำนัก ขณะนั้นมีนักวรรณคดีคนหนึ่งชื่อ หลัวปินหวัง เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์พระนาง เรื่องภูมิหลังของพระนาง ต่อว่าพระนางใช้เรือนร่างแลกมาซึ่งฐานะต่าง ๆ ในวัง และคิดการใหญ่ยึดอำนาจ หาว่าพระนางเป็นหญิงกาลกีณี หลังจากที่พระนางอ่านบทความจบ นอกจากพระนางไม่ทรงกริ้วแล้ว ยังทรงชื่นชมในความสามารถทางอักษรศาสตร์ของนักประพันธ์ผู้นื้ พระนางมักโปรดให้เหล่าขุนนางแนะนำผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการ เช่น “อัครเสนาบดีตี๋เหรินเจี๋ย” แนะนำผู้มีความสามารถให้พระนางหลายคน คนเหล่านั้นกลายเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงของยุคนั้นในเวลาต่อมา พระนางยังเป็นคนที่คิดวิธีเร่งดอกไม้บานได้ มีเรื่องเล่าว่าพระนางดำรัสสั่งให้นางกำนัลออกไปบังคับดอกไม้ให้บาน วันรุ่งขึ้นดอกไม้ก็บานด้วยวิธีที่ง่ายนิดเดียว คือ ต้มน้ำร้อนให้เดือด แล้วนำไปตั้งไว้ในราชอุทยานทุกหนทุกแห่ง ไอน้ำเป็นตัวช่วยเริ่งให้ดอกไม้บานได้ทุกดอก ถือเป็นความเฉลียวฉลาดของพระนางที่ยากจะหาใครมาเทียบรัศมีได้ คริศต์ศักราช 705 พระนางสละราชบัลลังก์ให้กับ ฮ่องเต้ถังจงจง ถวายพระนามแด่พระมารดาว่า “บูเช็คเทียนฮ่องเต้” และกลับมาใช้ชื่อราชวงศ์ “ถัง” ตามเดิม…